วันที่ 23 มิ.ย.54 เมื่อเวลา 11.00 น. นายนัฐ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปีอยู่บ้านเลขที่ 168/10 ถนนสตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ. สตูล และ นายธวัชชัย จาโร อายุ 22 ปีอยู่บ้านเลขที่ 277/28 ถนนสายศุลกานุกูล ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ของศาลจังหวัดสตูล ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ได้ร่วมกันเดินทางมา เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข ผบก.ภ.จว.สตูล
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. 2554 ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ธีระเดช รัตนวิจิตร ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สตูล ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกฟันได้รับบาดเจ็บที่บนถนนสายสมันตประดิษฐ์ ทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมือง (หน้าโรงแรมเหรียญทอง) ต.พิมาน จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.ท.คมสัน แสงไกร รอง ผกก.(สส.) และกำลังชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุ พบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน 118 สตูล ล้มคว่ำลอยอยู่ ในลำคลองมำบัง และที่เกิดเหตุยังพบ นายเสบ เต๊ะสาโหบ อายุ 64 ปีอยู่บ้านเลขที่ 270 หมู่ 3 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล มีตำแหน่งเป็นโต๊ะอีหม่ามมัสยิดบ้านนาลาน หมู่ 3 และเป็น พ่อตาของ นายไฟศาล หลีเส็น อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ. สตูล และผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 สตูล มีบาดแผลถูกฟันด้วยมีดสปาต้า เข้าที่บริเวณนิ้วนางด้านซ้ายจนหัก อาการบาดเจ็บเล็กน้อย
และในที่เกิดเหตุพบ รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า พีโน่ สีชมพูคาดดำ ทะเบียน กบธ. 485 สตูล ของ คนร้ายที่ทิ้งไว้ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ก่อนใส่ตีนผีวิ่งหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดรถ จยย.ของคนร้ายเอาไว้เป็นหลักฐาน ในเบื้องต้น พล.ต.ต.นราศักดิ์ สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบคึกคะนอง หรือมีประเด็นมาจากมูลสาเหตุอย่างอื่นมากว่าประเด็นทางการเมือง
ภายหลังการรับมอบตัวของทั้งผู้ต้องหาแล้ว ต่อมา พล.ต.ต.นราศักดิ์ จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาไปส่งมอบผู้ต้องหาให้กับ ร.ต.อ. ธีระเดช รัตนวิจิตร ร้อยเวร เจ้าของคดี เพื่อนำไปสอบสวนที่ห้อง สอบสวน สภ.เมืองสตูล แต่ในเบื้องต้น นายนัฐกับนายธวัชชัย สองผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งศาลเพื่อขออำนาจศาลฝากขังต่อไปในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ด้าน พล.ต.ต. นราศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ได้สอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกมาจากร้านอาหารมีชื่อแห่งหนึ่งที่ในตัวเมืองสตูล แต่ระหว่างที่ขี่ รถจยย. พบผู้ชายขับคนหนึ่งขับรถ จยย. ผ่านมา แต่ด้วยความมึนเมาเห็นเหมือนคล้ายกับว่าผู้ชายคนดังกล่าวนั้นทำท่าเหมือนจะชักอาวุธปืน หลังจากนั้นทั้งสองคนด้วยอาการเมาจึงได้ขับขี่รถกลับไปบ้านพัก แล้วนำเอามีดสปาต้าออกมาวนตามหาบุคคลดังกล่าว
“กระทั่ง มาเจอกับ ผู้เสียหาย (โต๊ะอีหม่าม) คิดว่าเป็นบุคคลที่ทำท่าจะชักอาวุธปืนดังกล่าวในที่สุด จึงไล่ตามใช้มีดฟันดังกล่าว แต่เมื่อมาดูอย่างละเอียดพบว่าเป็นการฟันผิดคนแล้ว จึงได้หลบหนีด้วยการทิ้งรถ จยย.เอาไว้ กระทั่งตัดสินใจเดินทางมาเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ดังนั้นในคดีนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใดเป็นเพราะผู้ต้องมึนเมา” พล.ต.ต.นราศักดิ์กล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น