สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

ถ้ำลอดปูยู

เป็นลักษระเดียวกับที่ถ้ำลอดที่อ่าวพังงาแต่มีขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่บนเขากากาหยังทางทิศใต้ของอุทยานทะเลบัน ห่างจากตัวจังหวัด 15 กม. ลักษณะถ้ำ บนเพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อย มีคลองท่าจีนไหล่ผาถ้ำและสองฝั่งคลองเป็นป่าโกงกางตลอดแนวห่างจากถ้ำประมาณ 1 กม.


-----------------------------------------------------------------------------------
ถ้ำภูผาเพชร

เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นห้องโถงแบบโรมันหลายห้อง บริเวณกลางถ้ำเป็นลานกว้าง มองขึ้นไปด้านเพดานถ้ำ จะเห็นความสวยงามของหินงอกหินย้อยงามระยิบระยับ เหมือนประดับด้วยเพชร อยู่ในท้องที่กิ่งอำเภอมะนัง


-----------------------------------------------------------------------------------
ถ้ำเจ็ดคด

เป็นถ้ำขนาดใหญ่ กว้าง 70-80 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร บางช่วงสูง 100-200 เมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก มีคลองใหญ่ทะลุภูเขาเหมาะแก่การล่องเรือเที่ยวถ้ำ ชาวบ้านเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ ถ้ำสัตคูหา “ มี 7 ชั้น


----------------------------------------------------------------------------------
ถ้ำวังกลาง

ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลป่าแก่บ่อหิน อำเภอทุ่งหว้า เป็นถ้ำที่งดงามมาก ภายในถ้ำมีธารน้ำ ไหลสามารล่องเรือชมความงาม ของหินงอก หินย้อย และยังมีภาพวิจิตรตระการตาทางธรรมชาติมากมายโดดเด่นอยู่บนผนังถ้ำ อย่างที่ไม่เคยพบที่ใดมาก่อน



----------------------------------------------------------------------------------
น้ำตกธาราสวรรค์

อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอควนกาหลง 12 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกใช้เส้นทางจากสามแยกนิคมฯ ผ่านที่ว่าการอำเภอควนกาหลงแยกเข้าทางซอย 10 ลักษณะเด่นมีน้ำตก 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อดังนี้ ชั้นแรกน้ำตกโตนต่ำ ชั้นที่สองน้ำตกสายฝนชั้นสามน้ำตกสอยดาวมีลักษณะความงามที่แตกต่างกันออกไปปัจจุบันได้พัฒนาให้มีบ้านพักและมีบริเวณสำหรับกางเต้นท์พักแรม

----------------------------------------------------------------------------------
น้ำตกวังสายทอง

ตั้งอยู่ที่ 10 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู ห่างจากตัวอำเภอละงู 37 กม. สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้ 2 ทาง คือ ทางอำเภอละงู ตรงข้ามทางแยกจากถนนสายสตูล – ละงู ที่สามแยกบ้านโกตา ตำบลกำแพง จากจุดนี้ถึงน้ำตกระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร อีกทางหนึ่งคือ ทางอำเภอทุ่งหว้า ตรงสามแยกสะพานวา ตำบลป่าแก่บ่อหิน ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร ความงามอยู่ที่แอ่งน้ำ และชั้นของหินปูนคล้ายดอกบัวบาน มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นเหมาะแก่การชมธรรมชาติและพักผ่อน
----------------------------------------------------------------------------------
น้ำตกปาหนัน

มีต้นน้ำมาจากภูเขากะหมิง ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง มีระยะทางจากตัวเมืองสตูล ประมาณ 39 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ยังไม่ได้รับการตกแต่งด้วยวิทยาการสมัยใหม่ แต่มีการสร้างเขื่อนผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดย่อมอยู่ในบริเวณน้ำตก ซึ่งส่งผลให้ทัศนียภาพบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อย่างไรก็ตามธรรมชาติแท้ ๆ ของป่า และภูเขายังคงอยู่อย่างครบถ้วนสายน้ำจากน้ำตกปาหนันยังไหลอย่างสม่ำเสมอ
----------------------------------------------------------------------------------
น้ำตกธารปลิว

ต้นน้ำเกิดจากเขาลุงเครอะในเขตจังหวัดตรัง – สตูล เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล อยู่หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 14 กิโลเมตร มีลักษณะเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดกว้าง 40 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร รอบ ๆ บริเวณร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้หลากหลาย

----------------------------------------------------------------------------------
อุทายแห่งชาติทะเลบัน

ตั้งอยู่ ต. วังประจัน อ.ควนโดน ที่มาชื่อ ”ทะเลบัน.” เป็นชื่อหนองที่เพี้ยนมาจากภาษามายูว่า “เลิดเรอบัน” มีความหมายว่าทะเลยุบ เป็นพื้นที่ป่าทางด้านทิศใต้ของจังหวัดสตูล บริเวณชายแดนของประเทศ ติดกับรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ได้รับประกาศเป็นอุทยาน เมื่อ 2523 เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ด้วยพื้นที่ป่าที่มีความสวยงาม มีภูเขาสลับซับซ้อน มีน้ำตก ถ้ำ มีหนองน้ำจืดขนาดใหญ่มีที่น้ำขังตลอกปี ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำและลำคลองต่างๆ ประกอบกับสภาพความแตกต่างของสภาพโครงสร้างทางภูมิศาสตร์ ชนิดของป่าและสัตว์ป่านานาชนิด จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศสนใจมากชอบมาศึกษาวิถีชีวิตของสัตว์ต่างๆ เช่น นก โดยได้มาพักเป็นแรมเดือน
------------------------------------------------------------------------------------
เขาโต๊ะพญาวัง

สวนสาธารณะเขาโต๊ะพญาวัง กลางเมืองสตูล ด้านปลายถนนคุหาประเวศน์ ริมคลองมำบัง มีเขาหินปูนขนาดเล็ก สูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งเทศบาลสตูลได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะ โต๊ะพญาวัง หรือ เขาพญาวัง เป็นที่พักผ่อนหย่อยใจและท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเมือง สัมผัสธรรมชาติ ริมคลองมำบัง ชมความงามธรรมชาติ 2 ฝั่งคลอง จากท่าเรือตำมะลัง ตลอดแนวยาวถึงบริเวณสวนสาธารณะ สัมผัสชีวิตชาวเมือง ในอนาคตจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พายเรือแคนนูนชมความงามธรรมชาติ
------------------------------------------------------------------------------------

สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล เกาะต่างๆ

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

ตั้งอยู่ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง ประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ จำนวน 51 เกาะ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2517 ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 8 ของประเทศ และจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้รับการยกย่องจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกแห่ง อาเซี่ยนเรียกว่า ASEAN Heritage Parks and Reserves หรือ อุทยานมรดกของอาเซียน เมื่อปี พ.ศ. 2525 เป็นแหล่งที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์นานาชนิด สัตว์ป่า และสัตว์ทะเล
------------------------------------------------------------------------------------
เกาะตะรุเตา

เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด เป็นที่ตั้งอุทยานและที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเคยเป็นที่กักกันนักโทษ เมื่อปี 2482 บริเวณเกาะประกอบไปด้วย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหาดทรายที่สวยงาม ถ้ำจรเข้ หน้าผาโต๊ะบู จุดชมวิวที่สวยงาม



------------------------------------------------------------------------------------
หมู่เกาอาดัง–ราวี

เกาะอาดัง คำว่า "อาดัง" มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า "อุดัง" มีความหมายว่า "กุ้ง" เนื่องจากว่าบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล เกาะอาดังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่ ต.ต.5 (แหลมสน-เกาะอาดัง) เกาะอาดัง มีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายละเอียดสวยงาม รอบเกาะมีเกาะเล็กๆ หลายเกาะ เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะดง เกาะหินงาม และเกาะยาง ซึ่งเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีป่าปกคลุมดูเขียวครึ้ม มีน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดปี คือ น้ำตกโจรสลัด
------------------------------------------------------------------------------------

บนเกาะอาดังยังมีจุดชมวิว "ผาชะโด" ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดสังเกตการณ์ของโจรสลัดเพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า ปัจจุบันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ใช้เวลาเดินขึ้น 40 นาที บนผาชะโดเป็นลานโล่งมองลงไปจะเห็นทิวสนและแหลมทรายสีขาวของเกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ะ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอีกด้วย

-------------------------------------------------------------------------------------
เกาะหลีเป๊ะ

อยู่ทางใต้ของเกาะอาดัง 2 กิโลเมตร มีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่หลายครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง ในวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 6 และเดือน 12 ตลอด 3 วัน 3 คืน ชาวบ้านทีมีเชื้อสายชาวเลจะร่วมกันจัดงานรื่นเริง และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวบ้านจะช่วยกันต่อเรือด้วยไม้ระกำ และประกอบพิธีลอยเรือด้วยเป็นความเชื่อว่าเป็นการเสี่ยงทายโชคชะตาในการประกอบอาชีพประมงจุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มเหมือนแป้ง มีอ่าวที่สวยงามชื่อ "อ่าวพัทยา"และ "หาดชาวเล" มีลักษณะโค้งเว้า ทรายขาวละเอียด ซึ่งทั้งสองหาดนี้สามารถเดินถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที และยังมีบริการบ้านพักของเอกชนคอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------
เกาะไข่

เกาะไข่ เกาะไข่อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตก ใช้เวลาเดินทางจากเกาะตะรุเตาประมาณ 40 นาที สิ่งที่มีชื่อเสียงบนเกาะไข่ ได้แก่ ซุ้มประตูหินธรรมชาติ เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทะเลรอบๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไป ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ค้างแรมบนเกาะ เรือโดยสารจากเกาะตะรุเตาไปยังเกาะหลีเป๊ะ มักจะวิ่งผ่านเกาะไข่ซึ่งอยู่ระหว่างทาง



------------------------------------------------------------------------------------
เกาะหินงาม

เลยจากเกาะอาดังไปทางทิศตะวันตกไม่ไกลนัก จะโดดเด่นสะดุดตาผู้ผ่านไปมาด้วยหาด หินก้อนกลมรีขนาดเล็กใหญ่ต่างๆ ที่ดูลื่นเป็นเงาวาววับเกลี้ยงเกลา เมื่อคลื่นซัดสาดมีสีพื้นเข้ม สลับริ้วลายเส้นสีอ่อนของหินงดงามจับตา



-----------------------------------------------------------------------------------
เกาะยาง / เกาะดง

เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ท้ายสุดของเกาะราวี บนเกาะมีหาดทรายขนาดเล็กขึ้นไปเดินเล่นได้ แต่จุดท่องเที่ยวของเกาะดงไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะ หากแต่เป็นโลกใต้น้ำ จุดดำน้ำชมปะการังของเกาะดงอยู่ในเวิ้งอ่าวถัดจากร่องน้ำไปเล็กน้อย และอีกจุดที่มีความสวยงามคือบริเวณร่องน้ำ เป็นจุดที่มีปะการังสวยงามแต่ว่าร่องน้ำนี้มีกระแสน้ำไหลแรงมาก การไปชมปะการังยังจุดนี้ควรจะต้องตรวจสอบเรื่องน้ำให้ดีก่อน มิฉะนั้นจะไปแล้วเสียเวลาเปล่า สาเหตุที่ร่องน้ำนี้มีกระแสน้ำแรงเนื่องจากเป็นร่องน้ำที่แคบมาก จึงเกิดปัญหาการอั้นของน้ำที่ต้องการจะไหลไปและน้ำที่จะไหลกลับ การจะลงดำน้ำที่จุดนี้มีวิธีเดียวคือต้องผูกเชือกให้พลาดผ่านแนวปะการังแล้วดำเกาะเชือกดู
-----------------------------------------------------------------------------------
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 49 ของประเทศไทยเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่กลางท้องทะเลอันดามันที่เรียงรายกระจัดกระจายตั้งแต่เขตอำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เรื่อยไปจนจรดอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลและเกาะน้อยใหญ่ โดยมีเกาะที่สำคัญเรียงจากเหนือไปใต้คือ เกาะเหลาเหลียงเหนือ เกาะเหลาเหลียงใต้ เกาะเบ็ง เกาะเภตรา เกาะตากใบ เกาะกล้วย เกาะตุงกู เกาะละมะ เกาะบุโหลนขี้นก เกาะบุโหลนใหญ่ เกาะบุโหลนไม้ไผ่ เกาะไม้ไผ่ เกาะเขาใหญ่ เกาะลิดี
-----------------------------------------------------------------------------------
เกาะบุโหลน

อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูลประมาณ 22 กิโลเมตร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมุกใหม่แห่งอันดามัน ใต้ท้องทะเลอุดมไปด้วยปะการังหลากสี หมู่ปลานานาพันธุ์ เหมาะสำหรับนักประดาน้ำที่ชื่นชอบความงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเล ประกอบกับหาด หาดขาวสะอาด ทิวสนหนาแน่น ธรรมชาติเงียบสงบ


โดยเฉพาะเกาะบุโหลนเล หรือบุโหลนใหญ่ มีทิวสนขึ้นตามริมหาดทรายขาวเป็นแนวยาวเสมือนเป็นแนวกำแพงป้องกันภัยทางด้านเหนือและด้านใต้สามารถกำบังลมได้ดี
-----------------------------------------------------------------------------------
แหลมตันหยงโปและหาดทรายยาว

ตั้งอยู่ทางปากอ่าวสตูล ห่างจากสี่แยกเจ๊ะบิลังประมาณ 7 กิโลเมตร ลักษณะเป็นแหลมยื่นล้ำไปในทะเลอันดามัน มีหมู่บ้านชาวประมงและหาดทรายขาวสะอาดยาวเหยียด




------------------------------------------------------------------------------------
หาดปากบารา

ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอละงู 10 กิโลเมตร มีท่าเทียบเรือประมงและเป็นจุดลงเรือของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ มีทิวสนที่ร่มรื่นขึ้นอยู่ตามริมหาดทรายขนานไปกับถนนสายละงู – ปากบารา มีที่พักของเอกชนไว้บริการนักท่องเที่ยว



-----------------------------------------------------------------------------------
ช่วงที่เหมาะแก่การเดินทางไปอุทยานฯ เดือน ธันวาคม - เมษายน จังหวัดสตูลได้ก่อสร้างถนนบนเกะจากท่าเรือตะโล๊ะวาวสู่อ่าวพันเตมะละกา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเกาะยังเส้นทางใหม่ได้ตลอกทั้งปี โดยมาลงเรือที่ท่าเรือตำละมัง
------------------------------------------------------------------------------------
สถานที่ท่องเที่ยวทางวัตถุ เขต อำเภอเมืองสตูล

มัสยิดกลางจังหวัดสตูล

มัสยิดกลางจังหวัดสตูล ตั้งอยู่ถนน บุรีวานิช และสตูลธานี ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองสตูล หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า มัสยิดมำบัง สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (ตนกูมูฮำหมัดอาเก็ม) เป็นเจ้าเมืองสตูล (ประมาณ พ.ศ. 2392) ชื่อ มำบังตั้งตามชื่อเมืองสตูลในสมัยนั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ได้จัดสร้างใหม่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มีลักษณะเด่นสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อน และกระจกใส ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ มาทรงเปิดเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2522
------------------------------------------------------------------------------------
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสตูล

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดสตูล (คฤหาสน์กูเด็น) เดิมเป็นจวนของอำมาตย์ตรี พระยาภูมินารถภักดี (กูบารูเด็น บินตำมะหงง) เจ้าเมืองสตูล ต่อมากรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณ สถานเมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ 2532 และได้ดำเนินการปรับปรุงเพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดสตูล โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2543
คฤหาสน์กูเด็น ตั้งอยู่ตรงถนนสตูลธานีตรงข้ามสำนสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกคฤหาสน์หลังนี้ว่า ศาลากลางหลังเก่า รูปทรงเป็นอาคารตึกสองชั้น ลักษณะการก่อสร้างเป็นศิลปะการผสมผสานกันอย่างสวยงาม คือ อาคารตัวตึกเป็นแบบตะวันตก ประตูหน้าต่างรูปโค้งสถาปัตยกรรมโรมัน หลังคาแบบชั้นบนแบบตกแต่งรูปดาวสถาปัตยกรรมแบบมุสลิม ปัจจุบันกลายเป็นพิพธ์ภัณฑ์สถานแห่งชาติ สตูลมีห้องจัดแสดงโบราณวัตถุและห้องจัดนิทรรศการ ให้ความรู้เรื่องศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี
----------------------------------------------------------------------------------