วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

“ผู้ว่าฯ สตูล” หอบโครงการขุดเจาะอุโมงค์สตูล-เปอร์ลิส คุย “มหาเธร์” เร่งก่อนเกษียร

หลังจาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อนุมัติงบ 35 ล้านบาท ศึกษาโครงการก่อสร้างถนนอุโมงค์สตูล-เปอร์ลิส ขณะที่ผู้ว่าฯ สุเมธ เร่งเครื่องก่อนเกษียณนำคณะเข้าพบ ดร.มหาเธร์ ที่ปรึกษานายกฯ มาเลเซียหารือ ก่อนขานรับเร่งผลักดันเป็นเส้นทางการค้า เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว

วันที่ 17 ก.ย.53 นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำคณะเจ้าหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการ และคณะสื่อมวลชนเข้าพบ ดร.มหาเธร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ซึ่งล่าสุดดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่ห้องรับแขกโรงแรมฮืฮรัง เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย โดยนำโครงการก่อสร้างขุดเจาะอุโมงค์ถนนสตูล-เปอร์ลิส มาเลเซีย เข้าหารือถึงท่าทีต่อความร่วมมือในการก่อสร้างโครงการในครั้งนี้ที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนและสื่อไทยรวมทั้งต่างประเทศ ซึ่งจับตาในการหารือในครั้งนี้

ด้าน ดร.มหาเธร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันที่จะได้รับเรื่องและเตรียมนำโครงการก่อสร้างขุดเจาะอุโมงค์ถนนสตูล-เปอร์ลิส เข้าชี้แจงต่อทางรัฐบาลมาเลเซียในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) เพื่อศึกษาความเป็นมาของโครงการฯ และความคุ้มค่าของการลงทุน รวมทั้งผลกระทบในด้านต่างๆ ขณะที่ทางรัฐบาลไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 35 ล้านบาทผ่านกรมทางหลวงเพื่อมาทำการศึกษาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนผ่านมา

ทั้งนี้ ดร.มหาเธร์กล่าวว่า ได้พูดคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ว่าการก่อสร้างโครงการขุดเจาะอุโมงค์ไทยกับมาเลเซีย โดยทางประมาเลเซียพร้อมที่จะทำการขุดเจาะอุโมงค์ โดยทางมาเลเซียยินดีพร้อมให้ความร่วมมือ และการทำอุโมงค์นี้ถือว่าเป็นการเปิดเส้นทางการเดินทางเส้นทางท่องเที่ยว รวมถึงเป็นเส้นทางการค้าอีกด้วย โดยจะนำเรื่องนี้ขึ้นไปพูดคุยกับทางรัฐบาลมาเลเซีย และปรึกษาทางด้านรัฐบาลอีกครั้งให้ถี่ถ้วน

นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า การพูดคุยกันระหว่าง ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในครั้งนี้ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่ดีของโครงการ ซึ่ง ดร.มหาธีร์พร้อมจะผลักดันให้โครงการฯ นี้เกิดขึ้น โดยจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ทางกัวลาลัมเปอร์ให้

โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 4,000 ล้านบาทโดยเบื้องต้นมาเลเซียเห็นชอบในหลักการที่จะให้มีการมีการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลส่วนหนึ่งและเอกชน ซึ่งการลงทุนร่วมจะมีการเก็บค่าผ่านทางเป็นภาษีคืนให้กลับรัฐ หลังการพูดคุยผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลจะนำเรื่องขึ้นเรียนนายกรัฐมนตรี และกงสุลระหว่างประเทศถึงความคืบหน้าของโครงการฯต่อไป

ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: