เครือข่ายภาคประชาชนฯ ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลถึง “ยิ่งลักษณ์” เสนอนโยบายโครงการแลนด์บริดจ์ และโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ควรพิจารณาให้ดีก่อนทำ
วันที่ 17 ส.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม โต๊ะพญาวัง ศาลากลางจังหวัดสตูล นางนุจรี พุ่มเพชร อายุ 52 ปี ตัวแทนเครือข่ายประชาชน ติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล พร้อมกับตัวแทนประชาชนยื่นหนังสือ เรื่อง ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายการพัฒนาแลนบริดจ์การขนส่งพาณิชย์และการก่อสร้างท่อน้ำมัน การอุตสาหกรรมในจังหวัดสตูล และในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ผ่านนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมพิจารณาใหม่โครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อำเภอละงู
สำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ ทางเครือข่ายประชาชนฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะร้องเรียนผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ให้นายกรัฐมนตรีหญิง ได้พิจารณาโครงการเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่ค้างคาสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะถูกนำมาปัดฝุ่นเดินหน้าอีกครั้ง ในรัฐบาลของ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นำมาหาเสียงก่อนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี คือ ผลักดัน โครงการแลนด์บริดจ์ อ่าวไทยยกระดับให้ไทยกลายเป็นศูนย์การขนส่งทางเรือ และการขนส่งน้ำมันแห่งใหม่ของภูมิภาคอาเซียน ตามที่หาเสียงไว้
ในครั้งนี้ นางนุจรี พุ่มเพชร อายุ 52 ปี ตัวแทนเครือข่ายประชาชนฯ ได้ร่างหนังสือฉบับนี้ไว้ว่าขอให้นายกรัฐมนตรีหญิง ได้พิจารณาทบทวน ร่างนโยบายรัฐบาลในประเด็นที่เกี่ยวข้องข้างต้น ก่อนแถลงต่อรัฐสภา เพื่อสร้างมิติใหม่ของการบริหารประเทศด้วยการรับฟังเสียงของประชาชนระดับล่างเป็นสำคัญ โดยต้องการให้ทบทวนโครงการที่จะทำทั้งโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา และรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยสู่อันดามัน ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมกับโครงการใหญ่ๆในพื้นที่ จ.สตูล
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่นี้ทบทวนให้แน่ชัด โดยทางเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสตูล และอีกหลายจังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้ต่างเฝ้าดูการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ จึงขอให้ทางรัฐบาลควรคำนึงถึงประชาชนเป็นส่วนใหญ่ และที่สำคัญควรทำงานตามรอยพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงตรัสในวันแม่ 12 สิงหาคม 2554 ที่ทรงห่วงใยผืนแผ่นดินประเทศไทย ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้ง ป่าไม้ ทรัพยากรทางทะเล ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ และปราบปรามผู้กระทำผิด คิดที่จะทำลายทรัพยากรป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล หลังจากได้รับหนังสือจากตัวแทนประชาชนแล้ว พร้อมจะนำหนังสือจากภาคประชาชน ได้ดำเนินการร่างและเตรียมส่งให้ถึงมือนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ นอกจากยื่นหนังสือผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลแล้ว ด้านทางเครือข่ายภาคประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล โดยนายวิโชคศักดิ์ รัตน์ไพลี ตัวแทนเครือข่าย จัดแถลงข่าว เรื่อง ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 โดยแถลงข่าวถึงการเปรียบเทียบ ถนนที่มีการพัฒนาความเจริญเข้ามาในพื้นที่ ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งคือ การนำของมีค่าในพื้นที่กลับออกไปด้วย โดยการนำปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ความหมายที่ประชาชนรู้จักเป็นอย่างดี ว่าพัฒนาความเจริญไปควบคู่กับความลำบากของประชาชนที่รอรับ โดยแสดงถึงจุดยืนว่าคนภาคใต้ลุกขึ้นสู้ และจะทำการต่อต้านโครงการที่รัฐทำมาด้วยความเห็นแก่ตัว โดยต้องยืนอยู่กับความเป็นจริงในขณะนี้
โดยในช่วงเย็น ทางเครือข่ายฯจะทำการ “แพลงกิ้ง” ในทะเล โดยแสดงท่าทางบ่งบอกถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกกับความสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติครั้งใหญ่
วันที่ 17 ส.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม โต๊ะพญาวัง ศาลากลางจังหวัดสตูล นางนุจรี พุ่มเพชร อายุ 52 ปี ตัวแทนเครือข่ายประชาชน ติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล พร้อมกับตัวแทนประชาชนยื่นหนังสือ เรื่อง ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายการพัฒนาแลนบริดจ์การขนส่งพาณิชย์และการก่อสร้างท่อน้ำมัน การอุตสาหกรรมในจังหวัดสตูล และในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ผ่านนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมพิจารณาใหม่โครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อำเภอละงู
สำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ ทางเครือข่ายประชาชนฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะร้องเรียนผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ให้นายกรัฐมนตรีหญิง ได้พิจารณาโครงการเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่ค้างคาสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะถูกนำมาปัดฝุ่นเดินหน้าอีกครั้ง ในรัฐบาลของ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นำมาหาเสียงก่อนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี คือ ผลักดัน โครงการแลนด์บริดจ์ อ่าวไทยยกระดับให้ไทยกลายเป็นศูนย์การขนส่งทางเรือ และการขนส่งน้ำมันแห่งใหม่ของภูมิภาคอาเซียน ตามที่หาเสียงไว้
ในครั้งนี้ นางนุจรี พุ่มเพชร อายุ 52 ปี ตัวแทนเครือข่ายประชาชนฯ ได้ร่างหนังสือฉบับนี้ไว้ว่าขอให้นายกรัฐมนตรีหญิง ได้พิจารณาทบทวน ร่างนโยบายรัฐบาลในประเด็นที่เกี่ยวข้องข้างต้น ก่อนแถลงต่อรัฐสภา เพื่อสร้างมิติใหม่ของการบริหารประเทศด้วยการรับฟังเสียงของประชาชนระดับล่างเป็นสำคัญ โดยต้องการให้ทบทวนโครงการที่จะทำทั้งโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา และรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยสู่อันดามัน ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมกับโครงการใหญ่ๆในพื้นที่ จ.สตูล
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่นี้ทบทวนให้แน่ชัด โดยทางเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสตูล และอีกหลายจังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้ต่างเฝ้าดูการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ จึงขอให้ทางรัฐบาลควรคำนึงถึงประชาชนเป็นส่วนใหญ่ และที่สำคัญควรทำงานตามรอยพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงตรัสในวันแม่ 12 สิงหาคม 2554 ที่ทรงห่วงใยผืนแผ่นดินประเทศไทย ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้ง ป่าไม้ ทรัพยากรทางทะเล ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ และปราบปรามผู้กระทำผิด คิดที่จะทำลายทรัพยากรป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล หลังจากได้รับหนังสือจากตัวแทนประชาชนแล้ว พร้อมจะนำหนังสือจากภาคประชาชน ได้ดำเนินการร่างและเตรียมส่งให้ถึงมือนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ นอกจากยื่นหนังสือผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลแล้ว ด้านทางเครือข่ายภาคประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล โดยนายวิโชคศักดิ์ รัตน์ไพลี ตัวแทนเครือข่าย จัดแถลงข่าว เรื่อง ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 โดยแถลงข่าวถึงการเปรียบเทียบ ถนนที่มีการพัฒนาความเจริญเข้ามาในพื้นที่ ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งคือ การนำของมีค่าในพื้นที่กลับออกไปด้วย โดยการนำปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ความหมายที่ประชาชนรู้จักเป็นอย่างดี ว่าพัฒนาความเจริญไปควบคู่กับความลำบากของประชาชนที่รอรับ โดยแสดงถึงจุดยืนว่าคนภาคใต้ลุกขึ้นสู้ และจะทำการต่อต้านโครงการที่รัฐทำมาด้วยความเห็นแก่ตัว โดยต้องยืนอยู่กับความเป็นจริงในขณะนี้
โดยในช่วงเย็น ทางเครือข่ายฯจะทำการ “แพลงกิ้ง” ในทะเล โดยแสดงท่าทางบ่งบอกถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกกับความสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติครั้งใหญ่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น