คณะรัฐมนตรีสั่งการผู้ว่าฯสตูล เรียกหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อตรวจสอบพื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ หลังชาวเลกว่า 1,000 คนบนเกาะเข้าขั้นวิกฤตไม่มีที่อยู่อาศัย สภาพพื้นที่ป่าเริ่มถูกทำลายกลายเป็นเกาะคอนกรีต และนายทันต่างๆ สร้างรีสอร์ตเพิ่มขึ้นเหมือนดอกเห็ด
วันที่ 27 ต.ค.53 นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายเกษม มีเสน วัฒนธรรมจังหวัดสตูล เรียกเจ้าหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประชุมด่วนคณะกรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลจังหวัดสตูล หลังมติคณะรัฐมนตรีสั่งการให้จังหวัดเร่งตรวจสอบความเดือดร้อนเรื่องที่ทำกิน และที่อยู่อาศัยพื้นที่ของชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ
ทั้งนี้ เเป็นผลจากสภาพพื้นที่เริ่มกลายเป็นเกาะคอนกรีต โดยป่าไม้ใกล้หมด ขณะยอดการทำรีสอร์ตเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ถึงแม้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้รับนโยบายสานต่อจากคณะรัฐมนตรีเร่งลงสำรวจพบชาวเลในประเทศไทยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมกันประมาณ 10,000 คน โดยชาวเลส่วนใหญ่ อาศัยบริเวณเกาะหรือชายฝั่งทะเลมีชาติพันธุ์ คือ มีกลุ่มมอแกน และอูรักลาโว้ย
สำหรับเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล พบเป็นเกาะที่มีทรัพยากรสวยงาม และถือว่าเป็นมัลดีฟเมืองไทย และมีวิถีชีวิตชาวเลอูรักลาโว้ยบนเกาะอาศัยอยู่กว่า 1,000 คน รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในช่วงนี้วันละประมาณ 2,000 คน
จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองพบว่า มีประชากรแอบแฝงที่เข้ามาอยู่อาศัยยังไม่ขึ้นทะเบียนจำนวน 1,000 คน ซึ่งเนื้อที่บนเกาะกว่า 2 ตร.ก.ม. โดยมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะพื้นที่แคบๆ
แต่ปัญหาที่หนักสุดในตอนนี้บนเกาะหลีเป๊ะ คือ นายทุน หรือผู้ประกอบการรีสอร์ตรายใหม่ๆ ลงสำรวจและเข้ามาสร้างรีสอร์ตบนเกาะ จนทำให้พื้นที่ที่ดินบริเวณนั้นมีมูลค่าอยู่ในหลักแสนจนถึงหลักล้านในพื้นที่ที่ดินทำเลทอง ถึงแม้จะมีการช่วยเหลือแก้ไขของจังหวัดมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ และสิ่งที่ชาวเลเจอ คือ ไม่มีหลุมฝังศพให้กับญาติที่ล่วงลับและพื้นที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้มีขยะมูลฝอยที่กองเกลื่อนกลาดตามชายหาดแหล่งท่องเที่ยว และสุนัขจรจัดบนเกาะ 500 ตัว ที่ออกก่อกวนนักท่องเที่ยว
ด้าน นายวินัย คุรุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ตอนนี้เกาะหลีเป๊ะถือว่าอยู่ในขั้นที่ต้องเร่งรีบแก้ไขด่วน หลังชาวเลที่อาศัยอยู่บนเกาะถูกไล่ที่ พื้นที่ที่ดินไม่มี ถูกนายทุนบางรายขมขู่ พร้อมกับความเจริญรุ่งเรืองบนเกาะทำให้เกาะหลีเป๊ะเริ่มหมดสภาพลงทุกที ป่าเริ่มถูกทำลายกลายเป็นเกาะคอนกรีต
ดังนั้น จังหวัดจึงได้รับคำสั่งจากคณะรัฐมนตรีสั่งการมาวันที่ 2 มิถุนายน 2553 ให้ตรวจสอบรายงานขึ้นกรมด่วน ซึ่งปัญหาชาวเลเป็นปัญหาขั้นวิกฤตสำคัญส่งผลกระทบต่อการดำเนินวิถีชีวิตชาวเลที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.สตูล แต่คณะรัฐมนตรีมองว่า 5 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีชาวเลอาศัยอยู่ เช่น ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนองและ สตูล ที่ประกอบด้วย 5 หลักต้องแก้ไขทันที เช่น ปัญหาเรื่องที่ดิน, ปัญหาเรื่องการศึกษา, ปัญหาการฟื้นฟูวิถีชีวิตวัฒนธรรมดั้งเดิม, ปัญหาสุขภาพ และที่ตามมาเมื่อเกาะที่ชาวเลอาศัยอยู่มีการพัฒนาเรื่องขยะ
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเร่งตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อเร่งแก้ไขตรวจสอบทันที เพื่อเตรียมนำข้อมูลไปรายงานคณะรัฐมนตรีทันที
ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น