สตูล ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบอ่างเก็บน้ำคลองช้าง ทุ่มงบ 941 ล้าน เนื้อที่ 1900 ไร่เศษ แก้ปัญหาเรื่องน้ำ พื้นที่การเกษตร
นายจอมพร เจริญวัฒน์ ผอ.โครงการชลประทาน จ.สตูล กล่าวว่าอ่างเก็บน้ำคลองช้างเป็นโครงการของกรมชลประทานและรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สตูล ในเนื้อที่ 1900 ไร่เศษ อยู่ม.2 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 941 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ทำการเปิดโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม อ่างเก็บน้ำคลองช้าง จ.สตูล ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ควนโดน และ อ.ควนกาหลง โดยร่วมกับกรมชลประทาน และบริษัทที่ปรึกษาร่วมกรมชลประทาน โดยเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 17 - 20 ต.ค. 54 นี้
เพื่อต้องการให้ประชาชนได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงของการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองช้างรวมทั้งมีวัตถุประสงค์ของโครงการ เป็นแหล่งต้นน้ำ สำหรับการช่วยเหลือ การอุปโภคบริโภคของราษฏรและสัตว์เลี้ยงในเขตอำเภอเมืองและเป็นแหล่งผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค จ.สตูล ให้มั่นคงยิ่งขึ้น ประการสำคัญ เป็นแหล่งน้ำเพื่อเก็บกักน้ำ
ส่วนที่มีมากเกินความต้องการมาใช้ในช่วงฤดูฝน ไว้ใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง หรือในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ โดยขณะนี้ ทางกรมชลประทาน ได้มีการศึกษาสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าว อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อหาข้อสรุป ต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้มีการศึกษาและจะมีการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยมีนายมนูญ แสงเพลิง ผู้จัดการโครงการและผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการบริษัทที่ปรึกษาร่วม โดยในพื้นที่ จ.สตูล ทั้ง 3 อำเภอจะมี ผอ.โครงการชลประทาน จ.สตูล เป็นประธานโครงการ
นางอารีชะ แกสมาน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที 148 ม 4 ต.ควนโดน จ.สตูล กล่าวว่า ตนเองมีพื้นที่ เพาะปลูกจำนวน 6 ไร่ ในเนื้อที่ ม.8 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองช้าง และตนเองมีสวนยางดังกล่าว จำนวน 6 ไร่ ซึ่งตนเองเห็นว่าหากมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ คลองช้างก็จะกระทบกับตนเอง ในเรื่องของที่ทำกิน และขณะนี้ ได้มีประชากร จำนวน 1300 ราย ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ ในเขตพื้นที่ ป่าเขตรักษ์สาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง หากทางกรมชลประทานได้มีการก่อสร้างก็จะต้องเคลียกับชาวบ้านและเวรคืนที่ดินให้ชาวบ้าน โดยส่วนตัวแล้ว ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ เพราะบริเวณ 1900 ไร่ ของอ่างเก็บน้ำ มีราษฏรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการครอบคลอง จึงใคร่วอนรัฐบาลให้ดูแลพี่น้องประชานในอีก 4 - 5 ปี ข้างหน้าหากมีการก่อสร้างจริงก็ขอให้มีความเป็นธรรมกับชาวบ้านด้วย
รายงานโดย...นีรนุช / สตูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น