วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แขวงการทางตรังยันตัดถนนเทือกเขาบรรทัดไม่กระทบ สวล

แขวงการทางตรัง มั่นใจการก่อสร้างถนน 4 เลน บนเทือกเขาบรรทัด ระหว่างตรัง-พัทลุง ไม่มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แม้ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากรัฐมนตรี ย้ำมีผลดีมากกว่าผลเสีย
              นายสันติ วงศ์ยงศิลป์ ผู้อำนวยการแขวงการทางตรัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างถนนเพชรเกษม ช่วงเขาพับผ้า บนเทือกเขาบรรทัด จากเดิมขนาด 2 ช่องจราจร เป็นขนาด 4 ช่องจราจร แบบมาตรฐาน ระหว่าง ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง กับ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ระยะทาง 10.5 กิโลเมตรว่า ได้ทำการประมูลและมีผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 และระยะเวลาก่อสร้างจะสิ้นสุดลงในวันที่ 16 มิถุนายน 2556 หรืออีกใน 2 ปีข้างหน้า และใช้การควบคุมงานก่อสร้างโดยกรมทางหลวงด้วยงบประมาณ จำนวน 557.4 ล้านบาท
      
       อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจะต้องนำเรื่องการก่อสร้างถนนสายนี้ ซึ่งผ่านพื้นที่ป่าธรรมชาติ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี แต่ในช่วงที่รอการอนุมัติ ทางแขวงการทางกับผู้รับเหมาก็สามารถดำเนินการก่อสร้างไปได้ก่อน โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจากการสำรวจพบว่าการก่อสร้างถนนสายนี้ จะมีผลกระทบต่อต้นไม้จำนวนที่น้อยมาก เนื่องจากพื้นที่ริมถนนบางส่วนได้ถูกบุกรุก จนกลายสภาพเป็นสวนยางพารา หรือสวนปาล์มน้ำมันแล้ว ซึ่งต้นไม้ในส่วนที่จำเป็นต้องตัดโค่นออกไปนั้น ทางแขวงการทางได้เข้าไปตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      
       นอกจากนั้น การสร้างถนนบนเทือกเขาบรรทัดในครั้งนี้ ก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้รถ ใช้ถนน เหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะจะมีการก่อสร้างถนนไปทีละฝั่ง ขณะที่ถนนเดิมยังคงเอาไว้จนกว่าถนนใหม่จะแล้วเสร็จ จึงเชื่อว่าในการก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นหน้าฝนหรือหน้าแล้ง จะไม่มีปัญหาต่อการใช้รถ ใช้ถนน อย่างแน่นอน แม้ว่าปกติในแต่ละวันจะมียวดยานจำนวนมากมาย ที่วิ่งผ่านไปมาบนเทือกเขาบรรทัด เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อกับหลายจังหวัดของภาคใต้ นับตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ลงไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส
      
       ทั้งนี้ ทางแขวงการทางเชื่อว่า หลังจากการก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจรดังกล่าวแล้วเสร็จ ก็จะเป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ การเดินทาง และการท่องเที่ยว ระหว่างฝั่งอันดามัน กับฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะการเดินทางไปมาระหว่างภาคใต้ตอนกลางกับภาคใต้ตอนล่าง เพราะในช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งมีการจราจรหนาแน่นจะเกิดรถติดยาวเหยียด ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก อีกทั้งที่ผ่านมายังเกิดอุบัติเหตุด้านการจราจรบนถนนสายนี้บ่อยครั้งด้วย แต่เชื่อว่าในอนาคตความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนก็จะสูงขึ้น
      
       อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายได้กังวลก็คือ ที่ผ่านมาหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ๆ ผู้ที่รับเหมาก่อสร้าง มักจะทิ้งงาน หรือดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด จนส่งผลกระทบทั้งต่อผู้ใช้รถ ใช้ถนนและผู้ที่อาศัยอยู่ข้างเคียง แต่กรณีนี้แขวงการทางตรัง ขอแสดงความมั่นใจว่า ผลจากการตกลงทำสัญญากับผู้ที่ชนะการประมูลได้ย้ำว่า การก่อสร้างจะต้องเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ อีกทั้งประวัติการดำเนินงานที่ผ่านมาของผู้รับเหมารายนี้ ก็ไม่เคยทิ้งงานหรือถูกตัดสิทธิ์การประมูลแต่อย่างใด
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: