วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ชาวสตูลเชิญร่วมคอนเสิร์ต “รักษาเภตรา ตะรุเตา ทะเลบ้านเรา เพื่อลูกหลาน” 27 ก.ย.นี้

เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ร่วมกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราและตะรุเตา จัดคอนเสิร์ตกึ่งปราศรัยเพื่อรณรงค์ให้ชาวสตูลตระหนักถึงสถานการณ์และความจริง เกี่ยวกับ “เซาเทิร์นซีบอร์ด” โดยมีศิลปินเพื่อชีวิตมากมาย ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ณ ลานสิบแปดล้าน ชายหาดปากบารา

เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา, ชมรมมัคคุเทศก์จังหวัดสตูล และชมรมศิลปินเพื่อสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล รวมตัวกันจัดคอนเสิร์ตกึ่งปราศรัยเพื่อรณรงค์ให้ชาวสตูล และจังหวัดใกล้เคียงได้ตระหนักถึงสถานการณ์ ทราบข้อมูลสร้างความเข้าใจรู้เท่าทันแผนการพัฒนาโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่กำลังดำเนินการในจังหวัดสตูล

อาทิ โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา, ท่อและคลังขนส่งน้ำมัน บริเวณบ้านปากบาง เส้นทางรถไฟเพื่อขนส่งสินค้าละงู-จะนะ นิคมอุตสาหกรรมเนื้อที่ 150,000 ไร่ กินพื้นที่คาบเกี่ยวสี่อำเภอ คือ อำเภอละงู มะนัง ควนกาหลง และท่าแพ การขุดเจาะอุโมงค์สตูล-เปอร์ลิส และโครงการอ่างเก็บน้ำทุ่งนุ้ย ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา” กำลังดำเนินการขอให้มีการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กว่า 4,734 ไร่ หากเพิกถอนพื้นที่อุทยาน ได้จะเกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงามทางทะเลอย่างประเมินค่าไม่ได้ ส่วนผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นของกลุ่มทุนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้องค์กรต่างๆ จึงร่วมมือกัน จัดงานคอนเสิร์ตกึ่งปราศรัย “รักษา เภตรา ตะรุเตา ทะเลบ้านเรา เพื่อลูกหลาน” เพื่อพยายามเสริมสร้างจิตสำนึกให้คนสตูลตื่นตัวให้รู้จักคุณค่าของภูมิลำเนา ร่วมกันปกป้องรักษาผืนแผ่นดิน รักษาทะเล ธรรมชาติที่บริสุทธิ์และสวยงามเอาไว้

สำหรับคอนเสิร์ตกึ่งปราศรัย “รักษาเภตรา ตะรุเตา ทะเลบ้านเรา เพื่อลูกหลาน” จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 กันยายนนี้ ณ ลานสิบแปดล้าน ชายหาดปากบารา อ.ละงู จ.สตูล มีศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดังคับคั่ง อาทิ หงา คาราวาน, มงคล อุทก, ซูซู, เศก ศักดิ์สิทธิ์, แสงธรรมดา, พจนาถ พจนาพิทักษ์, จ็อบ บรรจบ ร่วมกับศิลปินเพื่อชีวิตในภาคใต้ อาทิ กัวลาบารา, ดำ สตูล, ติ๊ก ไทลากูน, สุเมธ สะพาน, กุ้ง ชานชาลา, อรัญ เหมรา, สิรพล อักษรพันธ์ โดยงานเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป

พร้อมกันนั้น ได้มีการตั้งโต๊ะลงรายชื่อคัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราสมทบกับการล่ารายชื่อในพื้นที่อย่างน้อย 10,000 รายชื่อ ยื่นคัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตรา เพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา

นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวว่า จากข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2553 “ก.คมนาคมยันจำเป็นสร้างท่าเรือ ปากบารา” ทั้งยังมีกระแสข่าวจากทางอำเภอและจังหวัด ว่า การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา จะไม่มีการระเบิดหินภูเขา ขุดทราย ไม่มีที่ตั้งคลังน้ำมันห้าพันไร่ ไม่มีพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมหนึ่งแสนห้าหมื่นไร่ ที่บ้านลาหงาเวนคืนที่ดินเพื่อทำถนนโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น

ไม่ใช่เพื่อรองรับท่าเรือน้ำลึกปากบาราแต่อย่างใด สื่อหนังสือพิมพ์และรายการโทรทัศน์ล้วนแต่ให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ครอบคลุม และบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร มีแต่พวกเอ็นจีโอที่ได้รับเงินสนับสนุนมาจากสิงคโปร์ออกมาเคลื่อนไหว ปลุกระดมชาวบ้านร่วมคัดค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ล่าสุด วันที่ 8 กันยายน 2553 ได้มีการเปิดเผยจากชาวบ้าน ว่า ได้มีหน่วยงานของ สนข.ได้ติดต่อขอเช่าเหมาที่พักและรถเป็นโดยระบุป้ายทะเบียนจังหวัดสตูลระยะเวลาหนึ่งปีเพื่อลงมาประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน

นายสมบูรณ์ คำแหง กล่าวต่อว่า ทางเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล และองค์กรต่างๆ จึงจัดคอนเสิร์ตกึ่งปราศรัย “รักษาเภตรา ตะรุเตา ทะเลบ้านเรา เพื่อลูกหลาน” ในวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2553 ณ ลานสิบแปดล้าน ชายหาดปากบารา อ.ละงู จ.สตูลเพื่อสร้างความเข้าใจ เผยแพร่ข้อมูลให้กับชาวบ้านเป็นการยกระดับการต่อสู้อีกขั้นหนึ่งตามลำดับขั้นสำหรับการต่อสู้กับภาครัฐ ชาวบ้านจังหวัดสตูลจะต่อสู้ถวายชีวิตเพื่อแลกกับจังหวัดที่สงบมาเนิ่นนานตามมีตามเกิดตามประสา ดำรงอัตลักษณ์พื้นบ้านภาคใต้เสน่ห์กลิ่นอายมาลายู โดยที่รัฐไม่เคยเหลียวแล จนรัฐลืมไปว่าจังหวัดสตูลเป็นจังหวัดหนึ่งในแผนที่ประเทศไทยหรือไม่

อยู่ๆ วันหนึ่งรัฐถือวิสาสะโยนแผนพัฒนาภาคใต้มาให้ คนสตูลยิ้มดีใจนึกว่ารัฐให้ความสำคัญ สตูลจะได้เจริญลูกหลานมีงานทำ ที่ไหนได้ผลกระทบที่จะตามมามากมาย ไม่ว่า ท่าเรือน้ำลึกปากบารา, คลังน้ำมันห้าพันไร่ที่บ้านปากบาง, ขุดทรายยี่สิบล้านลูกบาศก์เมตรที่บ้านบ่อเจ็ดลูก, บ้านหัวหิน, บ้านปากละงู ระเบิดภูเขาแปดลูกทั่วจังหวัดสตูล, นิคมอุตสาหกรรมหนึ่งแสนห้าหมื่นไร่ที่บ้านโกตาตำบลกำแพง, ตำบลเขาขาว,ตำบลน้ำผุด, ตำบลละงูอำเภอละงู, ตำบลอุไดเจริญ อำเภอควนกาหลง, และพื้นที่อำเภอมะนังและอำเภอท่าแพบางส่วน, รถไฟรางคู่, ท่อขนถ่ายน้ำมัน, อุโมงค์สตูล-เปอร์ลิศ มิหนำซ้ำตามมาด้วยอ่างเก็บน้ำคลองช้าง (ทุ่งนุ้ย)

“มันเป็นแผนพลิกบ้านแปลงเมืองของนายทุนและนักการเมืองบางคนที่ฉกฉวยผลประโยชน์ ไม่อยากจะนึกสภาพของจังหวัดสตูลหากเป็นไปตามชะตากรรมนั้น ถึงอย่างไรก็ตามผมยังเชื่อว่าคนจังหวัดสตูลคงไม่ยอมขี้ข้าเหนือผืนแผ่นดินที่ได้ครอบครอง จังหวัดสตูลคงไม่มีทางตกเป็นอาณานิคมของนายทุนและนักการเมืองเด็ดขาด” นายสมบูรณ์ คำแหง กล่าว

ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: