วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ชาวสตูลเร่งล่า 10,000 รายชื่อ ค้านเพิกถอนอุทยานฯตะรุเตา-เภตรา สร้างท่าเรืออุตสาหกรรม

เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ล่ารายชื่อเชิญชวนคนรักษ์หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะเภตรา 10,000 รายชื่อ คัดค้านการเพิกถอนอุทยานฯ สร้างท่าเรือน้ำลึกอุตสาหกรรมปากบารา จวกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บิดเบือนข้อมูล สร้างความสับสนและความแตกแยกในชุมชน

วันที่ 19 ส.ค.53 เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ออกแถลงการณ์ในการต่อสู้คัดค้านการถอดถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 4,700 กว่าไร่ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการเดินเรือ โครงการขนาดใหญ่ อย่างโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา อ.ละงู จ.สตูล จึงขอเชิญชวนผู้มีใจรักในธรรมชาติและความสวยงามของอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน และสถานที่ท่องเที่ยวของคนทั้งโลก ร่วมลงชื่ออย่างน้อย 10,000 รายชื่อ คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ทางwww.satunwatch.org ได้ตั้งแต่สัปดาห์เป็นต้นไป

รายชื่อดังกล่าวจะนำไปยื่นต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติต่อไป และพร้อมจะเคลื่อนไหวใหญ่หากมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เนื่องด้วยกระทรวงคมนาคม และกรมเจ้าท่า มีความพยายามขอเพิกถอนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราเพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา หรือท่าเรืออุตสาหกรรมสตูล เนื้อที่ 4,700 ไร่ และอยู่ในระหว่างการเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติในช่วงเร็ววันนี้

การดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งจะมีแผนก่อสร้างอย่างอื่นตามมาอีกจำนวนมาก เช่น คลังและท่อส่งน้ำมันเชื่อมระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน เส้นทางรถไฟเพื่อการขนส่งสินค้า และนิคมอุตสาหกรรม 150,000 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดสตูล เพื่อรองรับท่าเรือน้ำลึกปากบารา หลังจากมีการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จะส่งผลกระทบต่อความสวยงามของทรัพยากรชายฝั่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา (เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะลิเปะ เกาะไข่) ซึ่งเป็นมรดกแห่งอาเซียนและได้รับการยอมรับในความสวยงามของปะการัง หญ้าทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสตูล และจะเปลี่ยนโฉมหน้าจังหวัดสตูลไปในแนวทางของการพัฒนาอุตสาหกรรม

เมื่อความสวยงามและความหลากหลายของทรัพยากรในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั้ง 2 ถูกทำลายไปด้วยการเพิกถอนก็เป็นการยกพื้นที่อุทยานแห่งชาติให้กับการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกอุตสาหกรรมปากบารา และเป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่

นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพลี กลุ่มรักษ์บ้านท่าขามเพื่อพัฒนา หนึ่งในเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมตอบโต้หลังพบว่ามีข้อเท็จจริงจากการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ได้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่ครบถ้วน และมีการใช้งบประมาณของแผ่นดินหลายหมื่นล้านบาท ในการศึกษาซึ่งเป็นภาษีของประชาชน และยังทำให้ผลการศึกษาที่ออกมามีความคลาดเคลื่อน

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดบิดเบือนข้อมูล สร้างปัญหาเสียเอง สร้างความสับสนให้กับชาวบ้าน ทั้งที่ผลการรายงานจาก EIA ระบุว่าหากมีการอนุมัติในการก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกจริงจะมีการใช้ทรายในพื้นที่ 10 ล้านคิว แต่ผู้ใหญ่ในจังหวัดกลับออกมาบอกว่าไม่มีแต่อย่างใด สร้างความสับสนให้กับชาวบ้าน

ขณะที่ด้าน นายนันทพล เด็นเบ็น อีกหนึ่งในเครือข่ายได้ร่วมแถลง พร้อมบอกให้อธิบดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่มาดูความต้องการของชาวบ้าน ว่า มีความต้องการโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกหรือไม่ และเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี คงไม่เห็นแก่นายทุนมากกว่าชาวบ้าน

ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: