วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสตูล ตั้งโต๊ะคัดค้านเพิกถอนพื้นที่อุทยานหมู่เกาะเภตรา เพื่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรม

วันที่ 11 ก.ค.53 เวลา 15.00 น. ณ ลาน 18 ล้าน บริเวณหาดปากบารา อ.ละงู จ.สตูล คณะสภาหอการค้ากว่า 40 คน ลงดูพื้นที่อุทยานหมู่เกาะเภตราเพื่อสนับสนุนให้มีการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา เพื่อการขนส่งสินค้าระหว่างฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน

พร้อมกันนั้นในจุดเดียวกันได้มีกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวและกลุ่มมัคคุเทศก์ในพื้นที่ปากบารา อ.ละงู ได้ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเชิญชวนผู้ไม่เห็นด้วยในการเพิกถอนพื้นที่อุทยานหมู่เกาะเภตราเพื่อให้กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีใช้ก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งทั้งหมู่เกาะเภตรา และหมู่เกาะตะรุเตาที่อยู่ใกล้เคียงกันนั้น เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สมบูรณ์สวยงามที่สุดของคนสตูล และคนไทยทั้งประเทศ อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว นันทนาการ สร้างงานสร้างรายได้แก่คนสตูลและการท่องเที่ยว เป็นความภาคภูมิใจของคนสตูลทั้งหมด

นายนันทพล เบ็นเด็น ประธานกลุ่มกรีนฟินและที่ปรึกษาชมรมมัคคุเทศก์จังหวัดสตูล กล่าวว่า ปัจจุบันกรมเจ้าท่าและพาณิชย์นาวีได้เสนอขอใช้ (นำไปสู่การเพิกถอน) พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา จำนวนกว่า 4,700 ไร่ จะมีการขุดทรายริมทะเลนับ 20 ล้านคิว ระเบิดภูเขานับล้านเมตรตริกตัน ไปถมทะเล รวมกว่า 1,000 ไร่ พร้อมทั้งจะสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ขึ้นกลางทะเล ด้วยวัตถุประสงค์เพียงเพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าธุรกิจ ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อการอุตสาหกรรม ทั้งมีแผนยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหนักคลังน้ำมันริมทะเลขึ้นในพื้นที่ จ.สตูล

“พื้นที่หมู่เกาะเภตรา เชื่อมต่อกับหมู่เกาะตะรุเตาเป็นพื้นที่มีความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติจนได้รับการยอมรับเป็นมรดกแห่งอาเซียน มีแหล่งปะการังสมบูรณ์ หญ้าทะเล สัตว์หายากต่างๆ ความสูญเสียจะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางจนประเมินค่าไม่ได้”

ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนพี่น้องสตูล และพี่น้องไทย ที่รักธรรมชาติทุกหมู่เหล่า ลงชื่อแสดงออกถึงความเห็นคัดค้านการขอใช้และเพิกถอน พื้นที่อุทยานหมู่เกาะเภตรา เพื่อรักษาทะเลสตูลที่สวยงามไว้ให้อยู่คู่สตูล คู่กับการท่องเที่ยว คู่กับชาวประมง เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยไม่มีมลพิษให้ลูกหลาน และคนทั่วไปตราบนานเท่านาน

ส่วนบรรยากาศการร่วมลงชื่อ มีการปราศรัยเพื่ออธิบายทำความเข้าใจถึงความสำคัญและความหลากหลายของธรรมชาติรอบอ่าวละงูและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนทั่วไปตลอดเวลาและมีผู้คนทั่วไปมาร่วมลงชื่ออย่างไม่ขาดสาย

ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: